ใครว่าแมคไม่มีไวรัส

บทความนี้ตีพิมพ์ครั้งแรกในนิตยสาร art4d ฉบับที่ 162 เดือนสิงหาคม พ.ศ. 2552

Gravity Rule

ทุกวันนี้เวลาจะต้องแลกเปลี่ยนข้อมูลกับผู้อื่น ผ่านทางสื่อบันทึกข้อมูลประเภท USB flash drive หรือที่เรียกกันไปได้หลากหลาย เช่น “thumb drive”, “ตั๊ม”, “แท่ง” และอื่นๆ เรามักได้ยินคำเตือนจากเจ้าของอุปกรณ์ว่า “ระวังนะ ในนี้มีไวรัส” มาคิดดูแล้วนี่เป็นคำเตือนที่ปราศจากความรับผิดชอบอย่างน่าหัวเราะ เพราะรู้ทั้งรู้ว่ามีเชื้อ ยังจะเอาไปจิ้มชาวบ้านเขาอีก เตือนไปก็ไม่ได้ประโยชน์อะไรขึ้นมาเพราะผู้ถูกจิ้มก็ไม่สามารถจะยกการ์ดป้องกันตัวได้อยู่ดี หรือจะให้ใช้ USB condom ที่ลงใน art4d เมื่อไม่นานมานี้ก็ไม่ได้มีกันทุกคน ถ้าผู้จะถูกจิ้มขัดขืน ไม่ยอมให้จิ้ม ก็ไม่ได้ทำงานกันพอดี ช่างเป็นภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออกเสียจริง …นอกเสียจากคุณจะไปพบกับเจ้าของเครื่อง Apple Macintosh ที่พร้อมจะยอมถูกจิ้มแต่โดยดี โดยตอบกลับมาด้วยเสียงเรียบเฉยว่า “จิ้มมาเถอะ ไวรัสของคุณทำอะไรเครื่องผมไม่ได้” แต่ความพิเศษนั้นกำลังจะกลายเป็นอดีต เพราะขณะนี้มีการค้นพบไวรัสตัวแรกที่จ้องทำลายเฉพาะเครื่อง laptop ของ Apple แล้ว! มันมีชื่อว่า “Newton Virus” โดยอาการของเครื่องที่ติด Newton Virus คือ ระบบจะหยุดการตอบสนอง menu bar จะหักกลาง และ icon ทั้งหมดจะร่วงลงมากองระเกะระกะอยู่ที่ด้านล่างของหน้าจอ ทั้งยังไหลไปตามแรงดึงดูดของโลกเมื่อคุณทำการขยับเครื่อง ที่ร้ายกาจกว่านั้นคือ ไม่มีอะไรสามารถหยุดยั้งมันได้ จนกว่าจะถึงเวลาหนึ่ง ทุกอย่างก็จะค่อยๆกลับคืนสู่สภาพปกติ คุณไม่มีทางป้องกัน และไม่มีวันรู้ว่ามันจะกลับมาเล่นงานคุณอีกเมื่อไหร่!

ชาว Mac user อย่าเพิ่งเสียขวัญหรือตื่นตระหนกไป ข้อเท็จจริงก็คือ เครื่อง Macintosh ไม่ได้ปราศจากไวรัส เพียงแต่ยังไม่มีผู้เจตนาร้ายเขียนไวรัสออกมาจู่โจม Mac OS ในวงกว้างเท่านั้นเอง ทั้งนี้เพราะไวรัสเป็นโปรแกรมที่ถูกเขียนมาเพื่อทำงานบนระบบปฏิบัติการหนึ่ง โดยเฉพาะ Windows เมื่อเจอกับระบบปฏิบัติการอื่น มันก็ไม่ทำงาน นี่คือที่มาของจุดขายที่ว่า “แมคไม่มีไวรัส” ที่สำคัญ Newton Virus ไม่ได้ติดกันง่ายๆ และมันไม่ทำลายข้อมูลอันมีค่าของคุณ

Newton Virus เป็นผลงานแสนพิลึกพิลั่นของสตูดิโอออกแบบสารพัดทางชื่อ Troika จากประเทศอังกฤษ เจ้า “ไวรัส” ที่ว่านี้เป็นโปรแกรมที่ต้องรันจากบน USB flash drive เท่านั้น เพียงแค่คุณนำโปรแกรมที่อยู่บน USB flash drive ไปเปิดบนเครื่องโน้ตบุคของผู้โชคร้าย เจ้าไวรัสก็จะแฝงตัวเข้าไปในเครื่อง แล้ว Eject ตัว USB drive ออกไป เมื่อเจ้าของเครื่องกลับมาใช้งานเครื่ีองไปประมาณ 30 วินาที มันก็จะเริ่มทำงานเป็นเวลา 1 นาที ก่อนจะปิดตัวเองและลบตัวเองออกไปเพื่อทำลายหลักฐาน

การทำงานของ Newton Virus คือการใช้ประโยชน์จาก Sudden Motion Sensor (SMS) ที่มีอยู่ในเครื่อง laptop ของ Apple อุปกรณ์ชิ้นนี้มีหน้าที่ตรวจจับการทิศทางการเอียงของเครื่อง หากมีการเคลื่อนไหวเปลี่ยนทิศทางโดยฉับพลัน อันอาจเกิดจากการทำเครื่องตก ระบบจะหยุดการทำงานของหัวอ่าน hard disk เพื่อความปลอดภัยของข้อมูล โดย Newton Virus จะทำให้ menu bar และ icon ร่วงหล่นลงมาตามทิศทางแรงดึงดูดของโลก และเคลื่อน, ไหล, กลิ้ง ไปตามทิศทางการเอียงของเครื่องตามข้อมูลที่ SMS ตรวจจับได้นั่นเอง

ตามคุณสมบัติ SMS จึงเป็นอุปกรณ์ที่มีไว้เพื่อความอุ่นใจ แต่ถ้าไม่ต้องใช้จะดีกว่า เช่นเดียวกับถุงลมนิรภัยบนรถยนต์ ต่างกันตรงที่ว่า ผู้พัฒนาซอฟท์แวร์สามารถเขียนโปรแกรมที่ไปรับข้อมูลจากการตรวจจับของอุปกรณ์ชิ้นนี้มาทำประโยชน์อย่างอื่นได้ ก่อนหน้า Newton Virus ก็เคยมีโปรแกรมน่าสนุกอื่นๆ ออกมาบ้างแล้ว ตัวอย่างเช่น SmackBook ที่ผู้ใช้สามารถ “ตบ” ตัวเครื่องเพื่อเปลี่ยนพื้นที่การทำงานเช่นเดียวกับ Spaces ใน Mac OS X Leopard หรือ Mac Saber ที่ให้ผู้ใช้กวัดแกว่งเครื่องคอมพิวเตอร์แล้วเกิดเสียงแบบดาบเลเซอร์ใน Star Wars และ iAlertU ที่จะส่งเสียงร้องเตือนเมื่อมีคนยกเครื่องของเราขึ้น คล้ายกับสัญญาณกันขโมยรถยนต์ เหมาะสำหรับเวลานำเครื่องไปใช้ในที่สาธารณะ เช่น ห้องสมุด เป็นต้น เพียงแต่ทั้งหมดนั้นเป็นการใช้งานที่เกิดประโยชน์ (หรือความบันเทิงป กับตัวเจ้าของเครื่องเอง ไม่ใช่การนำมาแกล้งผู้อื่นอย่างแสบๆ คันๆ เช่นนี้

ผู้สนใจสามารถซื้อ Newton Virus ทั้งในแบบ “ไวรัส” (เอาไว้ก่อกวนเครื่องคนอื่น) และแบบ “screensaver” (เอาไว้ดูเล่นบนเครื่องตัวเอง) ได้ ที่นี่ ได้ผลอย่างไรอย่าลืมกลับมาเล่าให้ฟัง หรือถ่ายคลิปมาอวดกันบ้าง เท่าที่ผู้เขียนได้ลองใช้ไปแกล้งเพื่อนมาบ้างแล้วขอยืนยันว่าทำให้เหวอได้สะใจจริงๆ

One Response to “ใครว่าแมคไม่มีไวรัส”

  1. holidaygodgun Says:

    August 30th, 2009 at 00:33

    ถ้าจำไม่ผิดผมเคยเห็นในเวอร์ชั่นทดสอบ
    เมื่อนานมาแล้วคุ้นๆว่าเขียนโดย Processing
    แต่ไม่คิดว่าจะทำมาขายขนาดนี้ ลองเสิชในยูทูปดูครับ

Leave a Reply

You must be logged in to post a comment.