BITS

ช่วงเวลา 10 ปี เป็นเวลาที่นานพอที่จะเกิดความเปลี่ยนแปลงมากมายอย่างคาดไม่ถึง นับจากที่ผมเรียนจบปริญญาตรีในพ.ศ. 2543 หรือค.ศ. 2000 จนถึงปัจจุบัน คือปีพ.ศ. 2553 หรือค.ศ. 2010 ชีวิตประจำวันของผมได้เปลี่ยนไปจากที่ต้องเริ่มมีโทรศัพท์มือถือเครื่องแรกเป็นของตัวเอง กลายเป็นยุคที่ทุกคนต้องใช้โทรศัพท์มือถือทำเรื่องอื่นๆ เยอะกว่าใช้คุยโทรศัพท์ จากกล้องถ่ายรูปที่ใช้ฟิล์มมาเป็นกล้องดิจิทอล จากที่รถไฟฟ้า BTS เพิ่งเปิดใช้ กลายเป็นวิธีการเดินทางหลักของใครหลายคน แต่ที่ประทับใจที่สุดในตอนนี้เมื่อมองย้อนหลังกับไป คือการมีพื้นที่สำหรับความสนใจด้านงานด้านอักขรศิลป์ (typography) ในสังคมไทยที่มากขึ้น

มองย้อนกลับไปสิบปี… ผมมีความสนใจ typography ตั้งแต่สมัยเรียนปริญญาตรี แต่ตอนนั้นไม่ค่อยมีแหล่งข้อมูลให้ค้นหาได้เหมือนทุกวันนี้ ไม่ค่อยมีงานคนไทยเจ๋งๆ ให้ดู ความสนใจของคนทั่วไปก็ไม่ได้เด่นชัด พอเริ่มมีแรงบันดาลใจจากบทความของอนุทิน วงศ์สรรคกร ก็ลองอีเมล์ไปคุยด้วยเพื่อขอคำแนะนำ, ต่อมาก็มีหนังเรื่อง “ฟ้าทะลายโจร” ที่ทำให้ได้รู้จักชื่อ “โรจ สยามรวย” หลังจากที่ซื้อเสื้อยืดของแกโดยไม่รู้ตัวมาตั้งนาน, มีจังหวะโชคดีในหน้าที่การงานที่ทำให้ผมได้ออกแบบตัวอักษรชื่อธนาคารแห่งหนึ่ง, ตามด้วยนิทรรศการสิบตัวพิมพ์ไทยของคุณประชา สุวีรานนท์, มีการประกวดฟอนท์สองครั้ง และยังมีกิจกรรมอื่นๆ ที่ทำให้ได้รู้จักกับนักออกแบบอีกหลายคน พี่ๆ บางท่านที่ผมเคยรู้จักและชื่นชมแต่ตัวผลงาน ก็ได้มาสนิทกัน ร่วมงานกัน ช่วยเหลือกันมาถึงทุกวันนี้

ถ้าบอกผมในปี 2543 ตอนเพิ่งเรียนจบปริญญาตรีใหม่ๆ ว่าในประเทศไทยจะมีงานสัมมนาที่เชิญนักออกแบบตัวอักษรชื่อดังจากนานาประเทศมาบรรยายและจัดเวิร์คช็อปร่วมกัน ผมคงไม่เชื่อว่าจะเป็นไปได้ แต่งานแบบที่ว่าก็เกิดขึ้นแล้ว ในชื่อ BITS/MMX (Bangkok International Typographic Symposium 2010) เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา

สมัยที่ผมได้ไปศึกษาต่อต่างประเทศแล้วรู้สึกตื่นเต้นที่ได้ไปฟังการบรรยายของนักออกแบบต่างชาติที่ตนเองชื่นชม รู้สึกอิจฉาชาวต่างชาติที่อยู่ใกล้แหล่งความรู้และประสบการณ์แปลกใหม่ แต่ครั้งนี้ ด้วยงาน BITS ที่นำนักออกแบบตัวอักษรชั้นนำจากฝรั่งเศส, เยอรมัน และญี่ปุ่น มาบรรยายในประเทศไทย แล้วเพื่อนๆ นักออกแบบจากฝรั่งเศส, เยอรมัน และญี่ปุ่น มากด like หรือมาเม้นท์รูปถ่ายของผมบน facebook นี่เป็นเรื่องน่าชื่นใจที่ไม่เคยคิดว่าจะเกิดขึ้นได้ แต่ทุกอย่างก็สมเหตุสมผล เมื่อมองย้อนกลับไปยังเหตุการณ์สำคัญที่เกิดขึ้นในรอบสิบปีที่ผ่านมา ทุกอย่างมีผลต่อเนื่องกันมา ไม่มีอะไรไร้ความหมาย

ในช่วงพักกลางวันของงาน BITS วันที่สอง มีกลุ่มนักศึกษาชั้นปีที่หนึ่งจากสถาบันหนึ่ง เข้ามาหาผมแล้วถามอะไรหลายเรื่อง ทั้งเรื่องของการประกอบอาชีพ, โอกาสในการทำงาน, ประโยชน์ของการมีความรู้เรื่องศิลปะการใช้ตัวอักษร หรือแม้แต่ทำไมนักออกแบบต้องใช้แมค เรานั่งคุยกันอยู่นานเพราะผมตั้งใจจะตอบคำถามของเขาให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ จนถึงกับไปเชิญเพื่อนๆ มาร่วมวงสนทนาด้วย

ตัวผมเองได้รับแรงบันดาลใจ และไฟในการทำงานจากงาน BITS มาไม่น้อย และเชื่อว่านักออกแบบ และนักศึกษาท่านอื่นที่ไปฟังการบรรยาย หรือร่วมกิจกรรมเวิร์คช็อปในงานนี้ ก็คงจะรู้สึกเช่นเดียวกัน แม้ในวันนี้ผมจะลืมหน้าน้องๆ กลุ่มนั้นไปแล้ว แต่ก็ยังคิดอยู่ว่า ถ้าเขาขวนขวายใฝ่รู้อย่างนี้ตั้งแต่ยังอยู่ปีหนึ่ง ต่อไปเขาน่าจะเก่ง และอาจจะได้เวียนมาพบกันอีกในอนาคต ไม่แน่ว่าหนึ่งในนั้นอาจจะเป็นนักออกแบบตัวอักษรชั้นนำของประเทศไทยก็ได้ ถ้าอีก 10 ปีนับจากนี้ เรื่อง typography อยู่ในความสนใจของแวดวงนักออกแบบและสังคมมากขึ้นเรื่อยๆ มีคนให้ความสำคัญมากขึ้นเรื่อยๆ มีคนทำงานด้านนี้มากขึ้นเรื่อยๆ ผมเชื่อว่าเราคงจะได้พบกันอีก

ขอขอบคุณผู้จัด ผู้สนับสนุน และผู้เกี่ยวข้องทุกท่าน ที่มีส่วนร่วมทำให้งาน BITS เกิดขึ้นได้ นี่คือเหตุการณ์สำคัญในประวัติศาสตร์ของวงการอักขรศิลป์ไทย

Leave a Reply

You must be logged in to post a comment.