Archive for the ‘random thoughts’ Category

พลังลบ

Sunday, March 13th, 2011

เนื่องด้วยได้รับเชิญไปพูดในงาน Pecha Kucha Bangkok ครั้งที่ 9 ในหัวข้อ “พลังลบ” เมื่อวันที่ 12 มีนาคม 2554 เมื่อเสร็จงานแล้วจึงขอนำสไลด์และเนื้อหามาบันทึกไว้ที่นี่ เป็นการอ้างอิงส่วนตัว และเผื่อแผ่แก่ผู้ที่ไม่ได้ไปงานมาอ่านดูครับ

(more…)

Tags: , , , , ,
Posted in design activity, random thoughts | 4 Comments »

BITS

Friday, November 5th, 2010

ช่วงเวลา 10 ปี เป็นเวลาที่นานพอที่จะเกิดความเปลี่ยนแปลงมากมายอย่างคาดไม่ถึง นับจากที่ผมเรียนจบปริญญาตรีในพ.ศ. 2543 หรือค.ศ. 2000 จนถึงปัจจุบัน คือปีพ.ศ. 2553 หรือค.ศ. 2010 ชีวิตประจำวันของผมได้เปลี่ยนไปจากที่ต้องเริ่มมีโทรศัพท์มือถือเครื่องแรกเป็นของตัวเอง กลายเป็นยุคที่ทุกคนต้องใช้โทรศัพท์มือถือทำเรื่องอื่นๆ เยอะกว่าใช้คุยโทรศัพท์ จากกล้องถ่ายรูปที่ใช้ฟิล์มมาเป็นกล้องดิจิทอล จากที่รถไฟฟ้า BTS เพิ่งเปิดใช้ กลายเป็นวิธีการเดินทางหลักของใครหลายคน แต่ที่ประทับใจที่สุดในตอนนี้เมื่อมองย้อนหลังกับไป คือการมีพื้นที่สำหรับความสนใจด้านงานด้านอักขรศิลป์ (typography) ในสังคมไทยที่มากขึ้น

(more…)

Tags: , , ,
Posted in design activity, random thoughts | No Comments »

การเป็นกรรมการตัดสินงานออกแบบ

Friday, September 17th, 2010

ในช่วงเวลาประมาณหนึ่งปีที่ผ่านมา มีกิจกรรมใหม่เกิดขึ้นกับชีวิต คือ ได้มีโอกาสเป็นหนึ่งในคณะกรรมการตัดสินงานประกวดออกแบบ, คณะกรรมการตรวจหัวข้องานศิลปนิพนธ์ และตรวจงานศิลปนิพนธ์ ทั้งหมดนี้ทำให้กลับมานั่งทบทวนแล้วได้ข้อสรุปจากความเห็นส่วนตัวที่นำมาบันทึกไว้ที่นี่

การตัดสินการประกวดงานออกแบบ

  • การประกวดไม่ใช่ทางออกที่ดีที่สุดในการหางานที่ดีที่สุดหรือเหมาะสมที่สุดเสมอไป แต่สำหรับผู้จัด นี่เป็นวิธีที่ลงทุนแล้วได้ผลเชิงปริมาณชัดเจนที่สุด วัดผลได้จากจำนวนผู้ส่งผลงานเข้าประกวด
  • เราไม่สามารถตัดสินผลงานได้อย่างเหมาะสมโดยไม่ได้รับฟังการนำเสนอของเจ้าของงานได้
  • มีบุคคล หรือกลุ่มบุคคล ที่ตั้งใจหากินกับการทำงานประกวดอย่างจริงจัง ส่งทุกงานเท่าที่จะทำได้ เพราะเป็นงานที่จบเร็ว ได้ตังค์โดยไม่ยุ่งยาก
  • มาตรฐานของการประกวดงานออกแบบ ขึ้นอยู่กับการคัดเลือกคณะกรรมการ

การตรวจหัวข้องานศิลปนิพนธ์

  • โลกทุกวันนี้ จะหาหัวข้อที่ใหม่ มีประโยชน์ และน่าสนใจจริงๆ ยากขึ้นเรื่อยๆ
  • การนำความสนใจส่วนตัวมาเป็นหัวข้อ ทำให้นักศึกษา “อิน” กับสิ่งที่จะทำ แต่ควรต้องหาเหตุผลมารองรับให้ครบถ้วน เพราะสุดท้าย งานออกแบบก็ไม่ใช่งานศิลปะ ต้องมีกลุ่มเป้าหมาย วัตถุประสงค์ และผลที่คาดหวังชัดเจน ไม่ใช่ทำเพื่อตอบสนองความอยากรู้อยากเห็นของเจ้าของโครงการ
  • กรรมการไม่ควรยัดเยียดความคาดหวังของตัวเองให้กับนักศึกษามากเกินไป จริงอยู่ที่ความตั้งใจจะผลักดันนั้นเป็นเรื่องที่ดี แต่ต้องคำนึงถึงความถนัด และศักยภาพของเจ้าของโครงการด้วย
  • ปัญหาคือ ถ้าคำว่า “กรรมการ” คือ เข้าไปตัดสินว่าถูกต้องหรือไม่ เหมาะสมหรือไม่ เท่านั้นแล้วจบ อะไรก็คงไม่ยาก แต่กรรมการก็อดไม่ได้ที่ทำจะหน้าที่โดยมีบทบาทของการเป็น “อาจารย์” หรือ “ที่ปรึกษา” รวมอยู่ด้วย

การตรวจงานศิลปนิพนธ์

  • หัวข้อดี, บรีฟดี มีชัยไปกว่าครึ่ง
  • การเลือกหัวข้อ และสื่อที่เหมาะสมกับความสนใจ และความสามารถของเจ้าของโครงการ เป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อคุณภาพงานอย่างชัดเจน
  • หลายครั้งที่ขณะตรวจจะคิดไปถึงว่า “ถ้านักศึกษาคนนี้จบไปแล้ว จะนำทักษะ หรือความรู้ที่ได้จากงานชิ้นนี้ไปใช้ได้อย่างไรในการทำงานจริง”
  • คำว่า “ยิง” ที่นักศึกษาชอบพูดกัน ฟังดูน่ากลัวเกินไป จริงๆ น่าจะเรียกว่า “ชี้ประเด็น” เท่านั้นแหละ จะชี้แบบเอานิ้วปักแสกหน้า หรือชี้แบบสะกิด ก็แล้วแต่

หมายเหตุ จนกว่าจะหมดภาคการศึกษาต้นของปีการศึกษา 2553, โพสท์นี้น่าจะได้อัปเดทอีกเรื่อยๆ

Tags: , , ,
Posted in design activity, random thoughts | 4 Comments »

สะพานแคบ ใจกว้าง

Monday, September 13th, 2010

เหตุเกิดเมื่อหัวค่ำวันหนึ่ง ขณะกำลังขับรถกลับบ้าน หลังจากวิ่งรถขึ้นไปคืบคลานอยู่บนสะพานแห่งหนึ่งที่วิ่งได้เพียงสองเลน ก็ได้ยินเสียงรถหวอดังมาจากทางด้านหลัง มองกระจกหลังก็เห็นไฟกระพริบสีแดง-ฟ้า มีเสียงเจ้าหน้าที่ซึ่งฟังไม่ได้ศัพท์ลอยมาพร้อมกัน แวบแรกผมก็คิดว่าจะขยับรถของตนจากเลนขวาไปชิดซ้ายเพื่อหลีกทางให้ แต่เมื่อรถหวอเข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อยๆ ก็เริ่มจับใจความของเสียงตะโกนผ่านโทรโข่งได้

“ไม่ต้องเปลี่ยนเลนนะครับ ใครอยู่เลนไหนก็อยู่เลนนั้น เลนซ้ายชิดซ้าย เลนขวาชิดขวา”

เพียงเท่านั้น เมื่อรถทุกคันพร้อมใจปฏิบัติตาม สะพานสองเลนแคบๆ ก็มีเลนที่สามเปิดขึ้นตรงกลาง ให้รถหวอวิ่งผ่านไปได้อย่างง่ายดาย แม้ว่าท้ายที่สุดแล้วรถของผมและเพื่อนร่วมทางทั้งสองเลนที่เหลือจะต้องอยู่กับรถติดต่อไป แต่ผู้เดือดร้อนบนรถหวอคงจะได้รับความช่วยเหลืออย่างทันท่วงที ในฐานะที่เคยอยู่บนรถหวอที่นำส่งสมาชิกในครอบครัวมาแล้ว ผมเข้าใจว่าภาวะที่ต้องเจอรถติดในขณะที่ทุกวินาทีมีค่านั้นทรมานแค่ไหน แค่นี้ก็รู้สึกดีแล้วที่ได้มีส่วนช่วยให้รถหวอคันนั้นวิ่งผ่านไปได้เร็วขึ้นสักนิดก็ยังดี

ณ วินาทีที่รถหวอวิ่งผ่านรถผมไป ผมรู้สึกว่านี่น่าจะเป็นภาพสะท้อนของสังคมได้ ตราบใดที่ทุกคนมีจุดหมายร่วมกัน ต่างคนต่างทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุดเพื่อส่วนรวม ไม่ต้องไปขวางทางหรือก้าวก่ายหน้าที่ของอีกฝ่าย ทุกอย่างก็จะดำเนินไปได้อย่างราบรื่น

ชีวิตประจำวันที่ดำเนินไปอย่างเดิมๆ มีอะไรสอนเราได้ตลอดจริงๆ

ป.ล. ขอขอบคุณพี่อาร์ท (try2benice) ที่ให้ชื่อ “สะพานแคบ ใจกว้าง” มาทาง facebook ตอนที่ผมโพสท์เรื่องนี้ครั้งแรกจากมือถือ

Tags: , ,
Posted in random thoughts | No Comments »

ผมเป็นเด็กสยาม พ่อเป็นเด็กพระรามสี่

Wednesday, May 19th, 2010

“ผมเป็นเด็กสยาม”

ราวสามสิบปีก่อน ตั้งแต่ตอนที่ยังไม่รู้ความ คุณแม่พาผมนั่งเบาะเด็ก ติดรถไปร้านขายเสื้อผ้าของแม่ที่สยามเซ็นเตอร์ ที่นั่น, ผมได้รู้จักกับเพื่อนๆ ของคุณแม่ ที่เป็นเจ้าของร้านข้างเคียง, พนักงานร้านอาหารไฮไลท์ บนชั้นสี่ เครือเดียวกับนิวไลท์ ในสยามสแควร์

ยี่สิบกว่าปีก่อน ตอนเริ่มเดินได้และซุกซน ผมหกล้มในร้านของคุณแม่ในสยามเซ็นเตอร์เพราะเต้นตามเพลงแรงไปหน่อย หัวแตก ต้องเย็บหลายเข็ม เป็นแผลเป็นอยู่บนหน้าผากถึงทุกวันนี้

สิบกว่าปีก่อน ผมก็เหมือนเด็กวัยรุ่นทั่วไปที่ชอบมาเดินเที่ยว ดูหนัง เรียนพิเศษ ในสยามสแควร์ มีเพื่อนบางกลุ่มมีร้านประจำ โต๊ะประจำในสยามสแควร์ ชอบเข้าร้านหนังสือบนเวิร์ลดเทรด จนเมื่อเป็นนิสิตจุฬาฯ ก็ยังใช้เวลาว่างในสยามสแควร์ และฝึกงานกับค่ายเพลงแห่งหนึ่งในสยามสแควร์

สิบปีผ่านไปหลังจากเรียนจบ ผมยังนิยมแวะเวียนไปสยามสแควร์ ไปซื้อเพลงจากร้านเดิมที่เคยอุดหนุนกันมาตั้งแต่เป็นนักเรียนมัธยมปลาย

(more…)

Tags: , ,
Posted in random thoughts | 1 Comment »

Pitching Fee

Tuesday, February 16th, 2010

เมื่อวานนี้มี (ว่าที่) ลูกค้ารายใหม่ ติดต่อเข้ามา อยากจะจ้างบริษัทของผมออกแบบ identity ให้ หลังจากได้คุยรายละเอียดผลิตภัณฑ์คร่าวๆ แล้วจึงเฉลยว่าจะต้องแข่งกับอีกสองสามราย อยากให้เข้าไปรับบรีฟแล้วเสนอผลงานร่างแรกกลับมาพร้อมกับราคา ผมจึงตอบไปว่า “ต้องมีค่าใช้จ่าย”

ในมุมมองของผม การออกแบบกราฟิกคือธุรกิจบริการ มีต้นทุนคือเวลาและพลังสมอง มีผลิตผลเป็นทรัพย์สินทางปัญญา ถ้าทำงานไปให้ฟรีๆ แล้วลูกค้าถูกใจแบบของผม แต่ถูกใจราคาของผู้ให้บริการรายอื่น ก็ไม่มีหลักประกันใดว่าจะไม่ถูกนำเอาแบบไปให้รายอื่นทำต่อ หรือเก็บไว้ทำเอง ถ้ามองโลกในแง่ร้าย ต่อให้มีค่าเหนื่อยให้ ก็อาจจะถูกนำแบบไปใช้ได้อยู่ดี แต่อย่างน้อย ไม่ต้องทำงานฟรี

(more…)

Tags: ,
Posted in design, random thoughts | 23 Comments »

คนขับแท็กซี่อายุ 82 ปี

Wednesday, December 23rd, 2009

slogan

ไม่ได้เขียนอะไรบนนี้มานานมาก เพราะภาระหน้าที่ส่วนตัวหลายอย่าง แต่เรื่องที่สำคัญที่สุดคืออาการป่วยของคุณพ่อที่ทำให้ต้องเข้าออกโรงพยาบาลอยู่ได้เดือนกว่าแล้ว ในระหว่างนี้ก็ได้พบกับผู้คนหลากหลาย และได้เรียนรู้บางแง่มุมเกี่ยวกับชีวิตคนแบบที่ไม่เคยคิดมาก่อน ซึ่งอาจจะทะยอยมาเล่าให้ฟังบนนี้บ้างในภายหลัง

เริ่มเรื่องแรกกันดีกว่า…

วันหนึ่ง ผมต้องเดินทางออกจากโรงพยาบาลไปทำธุระที่อื่นโดยแท็กซี่ แวบแรกที่กระโดดขึ้นรถแล้วหันไปบอกคนขับถึงที่หมาย ผมสะดุดตากับใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยับย่นของคุณคนขับ เขาดูแก่เกินกว่าที่จะมาขับแท็กซี่ แต่สิ่งที่ทำให้ผมแปลกใจยิ่งกว่าคือเสียงดังฟังชัดอันสดใสของเขาที่พูดถามมาก่อนที่ผมจะได้เอ่ยปากว่า “จะไปไหนครับท่าน?” ผมอมยิ้มเพราะไม่มีใครเรียกผมว่าท่านมาก่อน

หลังจากออกรถ บทสนทนาของเราเริ่มขึ้น

ลุง : “ท่านมาเข้าโรงพยาบาลนี่ป่วยเป็นอะไรหรือครับ”

ผม : “ผมไม่ได้ป่วยหรอกครับ แต่คุณพ่อผมเข้าโรงพยาบาลมาได้เดือนนึงแล้ว”

คุณลุง (หรือถ้าจะให้ถูก อาจต้องเรียกว่าคุณปู่) คนขับแท็กซี่คนนี้ดูกระฉับกระเฉงและอารมณ์ดีมาก ผมอดไม่ได้ที่จะถาม

ผม : “ขอโทษนะครับ ลุงอายุเท่าไหร่แล้วครับ”

ลุง : “แปดสิบสองปีแล้วครับ”

(more…)

Tags: , , ,
Posted in random thoughts | 4 Comments »

เมื่อผมได้พบกับนักออกแบบระดับโลก

Friday, September 25th, 2009

มีเรื่องแปลกมาเล่าให้ฟังครับ โดยเฉพาะคนที่ทำงานสายออกแบบ เผื่อจะมีคนเจอแบบผม

เมื่อคืน ผมไปซื้อหนังสือกราฟิกที่ร้านคิโนคุนิยะ พารากอน ขณะจ่ายเงิน ก็บอกชื่อบริษัท และตัวสะกดให้พนง.ออกบิล ตอนนั้นมีคุณพี่คนหนึ่งที่มาซื้อหนังสือแล้วรอบิลอยู่ข้างๆ เข้ามาคุยกับผม ขอดูหนังสือที่ผมซื้อด้วยนิดหน่อย แล้วบทสนทนาก็เริ่มขึ้น… ขอเรียกชื่อย่อของเขาว่านาย J แล้วกันนะครับ

(more…)

Tags: ,
Posted in random thoughts | 12 Comments »

การเล่นหมาก กับการบริหารองค์กร

Monday, September 14th, 2009

วันก่อนได้นั่งคุยกับเพื่อนกลุ่มหนึ่ง คุยไปคุยมาวนเวียนมาเรื่องการบริหารองค์กรได้อย่างไรไม่รู้ จากนั้นก็เริ่มเกิดการเปรียบเทียบกับการเล่นหมากชนิดต่างๆ เห็นว่าเป็นเรื่องน่าคิด จึงนำมาสรุปได้คร่าวๆ ดังนี้

  • ผู้บริหารเป็นผู้เล่นเกมหมาก โดยมีลูกน้องในองค์กรเป็นตัวหมาก
  • ผู้บริหารที่เน้นพระคุณ ก็เปรียบเหมือนเล่นหมากล้อม รักษาตัว เน้นจำนวน
  • ผู้บริหารที่เน้นพระเดช ก็เปรียบเหมือนเล่นหมากรุก โหดร้ายกว่า เพื่อชัยชนะของส่วนรวม
  • เรื่องที่ควรคำนึง คือ ในหมากล้อม ทุกตัวหมากไม่มีความแตกต่าง ส่วนหมากรุก แต่ละตัวมีความสามารถแตกต่างกัน คอยส่งเสริมกัน
  • บางธุรกิจเหมาะจะใช้วิธีแบบหมากล้อม บางธุรกิจเหมาะจะใช้หมากรุก
  • ผู้บริหารขององค์กรขนาดใหญ่ ที่ไม่รู้จักบุคลากรของตัวเองดีนัก มองแต่ภาพรวม มีแนวโน้มจะใช้วิธีของหมากล้อมโดยปริยาย
  • ส่วนองค์กรขนาดเล็ก ที่เข้าใจความสามารถของบุคลากรแต่ละคนอย่างดี มีแนวโน้มจะใช้วิธีของหมากรุกได้อย่างเหมาะสม
  • จะว่าไป หมากรุกก็เหมือนกับการบริหาร – Put the right man on the right job.
  • หมากรุกนั้นโหดร้าย บางตัวต้องยอมตาย บางตัวต้องยอมอยู่เฉย ทั้งหมดนี้เพื่อชัยชนะของส่วนรวม

โดยส่วนตัว ผมไม่ใช่คนที่ลึกซึ้งอะไรมากมาย เคยพยายามเล่นหมากรุกก็ไม่รุ่ง หมากล้อมก็ไม่เคยแตะ จะให้ตัดสินว่าระหว่างหมากรุกกับหมากล้อม อย่างไหนดีกว่ากัน, อย่างไหนสนุกกว่ากัน, อย่างไหนยากกว่ากัน คงตอบไม่ได้ แต่ถ้าถามว่าผมอยากใช้หมากไหน ขอเลือก “หมากฮอส” แล้วกัน ก็คือ จะช่วยผลักดันสมาชิกร่วมทีมให้ถึงที่สุดอย่างเท่าเทียมกัน เมื่อถึงจุดหมายที่เขาพัฒนาตนเองได้สำเร็จ มีศักยภาพมากขึ้นแล้ว ก็จงกลับมาเป็นกำลังสำคัญของทีมต่อไป

Tags:
Posted in random thoughts | 2 Comments »

Walkman อายุครบ 30 และพฤติกรรมการฟังเพลงของคนอายุย่าง 31

Tuesday, September 8th, 2009

ภาพจาก Gizmodo

ภาพ Walkman รุ่นแรก จาก Gizmodo

ไม่นานมานี้ได้เขียนบทความขนาดสั้นให้กับนิตยสาร art4d เนื่องในโอกาสที่ Walkman มีอายุครบ 30 ปี และก่อนที่บทความดังกล่าวจะได้ตีพิมพ์ ก็บังเอิญไปเจอบทความที่น่าสนใจอันหนึ่ง เกี่ยวกับการให้เด็กวัยรุ่นยุค iPod มาลองเล่น Walkman รุ่นแรก อ่านแล้วได้คิดตามหลังจากปะติดปะต่อบทความเข้าด้วยกัน จึงขอมาเล่าสู่กันฟังกันตรงนี้

ก่อนอื่น ขอเชิญอ่านเรื่องที่ผมเขียนก่อนนะครับ

(more…)

Tags: , ,
Posted in article, music, random thoughts, toys | 1 Comment »